 |
| ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต |
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อบริษัทที่คณะกรรมการได้นำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียด และเลือกบริษัทที่เหมาะสมที่สุดประกอบด้วย1.บริษัท เซิ่นเจิ้น สโคป ซายเอ็นทิฟิก 2.บริษัททีซีแอล คอปอเรชั่น 3.บริษัทไฮเออร์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี และ4.บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยี โดยใช้เวลาประชุมพิจารณาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงเปิดห้องแถลงข่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ภายจาก ครม.มีมติให้กระทรวงการต่างประเทศเจรจาจีทูจี กับ รัฐบาลจีน เบื้องต้นจากการหารือรัฐบาลจีนตอบรับเงื่อนไขของรัฐบาลไทย พร้อมทั้งเสนอบริษัทที่สามารถผลิตแท็บเล็ตได้ตามคุณสมบัติที่รัฐบาลไทยต้อง การมา 4 บริษัท จากนั้นกระทรวงไอซีที ตั้งคณะทำงานจัดซื้อเดินทางไปประเทศจีนเพื่อตรวจการดำเนินงานของทั้ง 4 บริษัท ทั้งความพร้อมของโรงงาน คุณสมบัติตัวเครื่อง และการบริการหลังการขาย ก่อนกลับมาสรุปรายละเอียด เพื่อนำเสนอรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการในวันนี้ สุดท้ายคณะกรรมการจึงมีมติเห็นชอบให้เสนอบริษัท เซิ่นเจิ้น สโคป ซายเอ็นทิฟิก ให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไปในวันพรุ่งนี้
รมว.ไอซีที กล่าวต่อว่า บริษัท เซิ่นเจิ้นฯ สามารถตอบสนองข้อเสนอทางด้านเทคนิคได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไข ระบบ คุณลักษณะเฉพาะ การรับประกัน คุณลักษณะตัวเครื่องที่ใช้ทดสอบ ตลอดจนศักยภาพความพร้อมของโรงงานที่ผลิตได้ 24,000 เครื่องต่อวัน ส่วนราคาที่ 4 บริษัทเสนอมานั้น เป็นราคาแท็บเล็ตรวมค่าขนส่งจากโรงงานถึงท่าเรือจีน (เอฟโอบี) ต่อจากนั้นเป็นค่าใช้จ่ายของรัฐบาลไทยในการขนส่งแท็บเล็ตเข้ามาในประเทศ และส่งต่อไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ คือ บริษัท เซิ่นเจิ้นฯ เครื่องละ 81 ยูเอสดอลล่าร์ (ประมาณ 2,430 บาท) บริษัททีซีแอลฯ 89 ยูเอสดอลล่าร์ บริษัทไฮเออร์ฯ 105 ยูเอสดอลล่าร์ และบริษัทหัวเหว่ยฯ 135 ยูเอสดอลล่าร์
"โดยลักษณะของแท็บเล็ตจะเหมือนปกติ คือ หน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว โดยรัฐบาลจีนได้เสนอเพิ่มหน่วยความจำหลักจาก 512 เมกกะไบต์ เป็น 1 กิกกะไบต์ เพื่อรองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอย เวอร์ชั่น 4.0 และรับประกัน 2 ปี ส่วนจำนวนนั้นจะจัดซื้อตามมติ ครม.ให้นักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 สังกัดกระทรวงศึกษาธิการประมาณ 8 แสนเครื่อง กทม.และพัทยา ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษอีกประมาณ 6 หมื่นเครื่อง เครื่องสำรองอีก 3 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 9 แสนเครื่อง อย่างไรก็ตามวันนี้คณะกรรมการได้พิจารณาเฉพาะแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนชั้นป.1 เท่านั้น ยังไม่พิจารณาถึงช่วงชั้นอื่น ซึ่งอาจจะพิจารณาหลังจากนี้ เพราะจำเป็นต้องตั้งงบประมาณเพิ่มเติมต่อไป" รมว.ไอซีทีกล่าว
ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น